Purchase Scam Analysis for Online Shopping Fraud Pattern Investigation

การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของข้อมูลการซื้อสินค้าเพื่อช่วยในการสืบหาผู้หลอกลวงจากการซื้อขายสินค้าออนไลน์

ปัญหาอาชญากรรมบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตในปัจจุบัน มีความซับซ้อนมากขึ้นทำให้ยากต่อการสืบค้นหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ   การหลอกลวงจากการขายสินค้าออนไลน์เป็นหนึ่งในปัญหาหลักที่มีผู้ร้องเรียนเป็นจำนวนมากแต่การหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เนื่องมาจากหลายสาเหตุ อาทิเช่น ไม่ทราบข้อมูลของผู้ขาย หรือ ไม่สามารถยืนยันได้ว่าข้อมูลของผู้ขายที่ปรากฎเป็นข้อมูลจริงหรือไม่ หรือ ไม่สามารถระบุตัวตนที่แท้จริงของผู้ขายจากข้อมูลที่มี เช่น ชื่อที่อยู่ หรือ หมายเลขโทรศัพท์ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีระบบจัดเก็บข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ สามารถปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัยอยู่เสมอ และรองรับการสืบค้นข้อมูลที่มีอย่างเป็นระบบ เพื่อช่วยให้การสืบค้นข้อมูลของผู้ขายทำได้สะดวก รวดเร็ว และ สามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์เพื่อช่วยในการสืบสวนได้แต่ในภาวะปัจจุบัน การสืบค้นจากฐานข้อมูล อาจไม่ได้ข้อมูลที่ตรงกับความต้องการ   เนื่องจากบ่อยครั้งที่ผู้ฉ้อโกงมีการปลอมแปลงข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลที่ประกาศซื้อขาย โดยเปลี่ยนข้อมูลและเนื้อหาให้ต่างจากเดิมทำให้การติดตามตัวเป็นไปได้ยาก และมีผู้เสียหายเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อยๆ การสืบค้นข้อมูลโดยการเปรียบเทียบกับข้อมูลที่มีอยู่อย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะติดตามผู้กระทำความผิด หรือ ตรวจสอบพฤติกรรมการซื้อขายในอดีตได้

การวิเคราะห์หารูปแบบการฉ้อโกงจึงเป็นแนวทางหนึ่งในการช่วยตรวจสอบผู้กระทำความผิดโดยการค้นหารูปแบบการฉ้อโกงที่มีความคล้ายคลึงกัน หาความสัมพันธ์กับกรณีต่างๆในอดีต เพื่อนำมาใช้ประกอบการสืบสวน หรือประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าออนไลน์  ซึ่งความสัมพันธ์ต่างๆเหล่านั้น อาจได้มาจากการวิเคราะห์รูปภาพ หรือข้อความที่เคยประกาศบนเว็บไซต์ หรือ จากการวิเคราะห์ IP Address เป็นต้นดัวยเหตุนี้ งานวิจัยนี้จึงได้ทำการศึกษาเพื่อหาเทคนิคที่เหมาะสมสำหรับนำมาใช้ในการวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ของการฉ้อโกงจากการซื้อขายสินค้าออนไลน์ วิเคราะห์ความเสี่ยงที่การซื้อขายสินค้านั้นจะเป็นการฉ้อโกง และพัฒนาระบบวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของข้อมูลการซื้อสินค้า เพื่อช่วยในการสืบสวนหาผู้หลอกลวงจากการขายสินค้าออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ